ครบรอบ 15 ปี "วาโก้โบว์ชมพู สู้มะเร็งเต้านม" พร้อมเดินหน้ารณรงค์อย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนให้ผู้หญิงไทยห่างไกลจากมะเร็งเต้านม
วาโก้ เดินหน้ารณรงค์อย่างต่อเนื่อง ภายใต้โครงการ "วาโก้โบว์ชมพู สู้มะเร็งเต้านม 2558" ปีที่ 15 เพื่อผู้หญิงไทยปลอดภัยจากมะเร็งเต้านม พร้อมจัดกิจกรรม "Wacoal Cares For Your Breasts. Mammogram Saves Your Life." ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 โดยวาโก้มอบสิทธิพิเศษแก่ลูกค้าที่เป็นสมาชิก HIS&HER เมื่อซื้อผลิตภัณฑ์วาโก้สะสมครบ 12,000 บาท ระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม ถึง 31 ตุลาคม 2558 จะได้เข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยเครื่องแมมโมแกรม ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 ธันวาคม 2558 ณ สถานพยาบาลชั้นนำที่ร่วมโครงการ 25 แห่งทั่วประเทศ
นายธรรมรัตน์ โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "โครงการวาโก้โบว์ชมพู สู้มะเร็งเต้านม" ยังคงเป็นหนึ่งโครงการหลักของวาโก้ ซึ่งทีมงานทุกคนของวาโก้ พร้อมที่จะเดินหน้ารณรงค์ให้ผู้หญิงไทยห่างไกลจากภัยมะเร็งเต้านม ด้วยการให้ความรู้กับผู้หญิงไทย ในเรื่องโรคมะเร็งเต้านม ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องใกล้ตัวสำหรับผู้หญิงไทยทุกคน โดยในปีนี้วาโก้จะรณรงค์อย่างเข้มข้นเพื่อให้สตรีไทยได้ตระหนักถึงโรคร้ายนี้ พร้อมเผยแพร่ทางเอกสารและสื่อต่างๆเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการตรวจสุขภาพเต้านมเบื้องต้นด้วยตัวเองอย่างถูกวิธี รวมไปถึงการตรวจ อย่างแม่นยำที่สุดด้วยเครื่องแมมโมแกรม และอัลตร้าซาวด์ ที่ทางการแพทย์ถือว่าให้ผลการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดในปัจจุบัน เพราะมะเร็งเต้านมถือว่าเป็นมะเร็งภัยร้ายอันดับ 1 ของผู้หญิงไทย อีกทั้งยังพบในผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 40 ปีมากขึ้นทุกๆปี
สำหรับปีนี้ ถือว่าครบรอบ 15 ปี กับโครงการวาโก้โบว์ชมพู สู้มะเร็งเต้านม ซึ่งทางวาโก้มีความยินดีอย่างยิ่ง ในการสนับสนุนการตรวจด้วยเครื่องแมมโมเกรมอีกเช่นทุกปี แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้หญิงไทย คือการรักษาสุขภาพให้แข็งแรง หมั่นตรวจเต้านมด้วยตนเองทุกเดือนและรับการตรวจด้วยแมมโมแกรมเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป หรือผู้ที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไปที่มีประวัติบุคคลในครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านม โดยแมมโมแกรมสามารถตรวจหามะเร็งเต้านมในระยะแรกเริ่มตั้งแต่ยังไม่มีอาการ คือพบได้ตั้งแต่ขนาด 2 มม. โรคนี้มีโอกาสรักษาให้หายขาดได้ หากตรวจพบในระยะเริ่มแรกและได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
ทางด้าน นายแพทย์ธีรวุฒิ คูหะเปรมะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวัฒโนสถ กล่าวว่า ปัจจุบันยังไม่มีผลการวิจัยใดๆที่บ่งบอกได้ชัดเจนว่า อะไรเป็นสาเหตุของมะเร็งเต้านม โดยในกลุ่มที่เป็นมะเร็งเต้านมในอายุน้อยพบว่า มีการเปลี่ยนแปลงด้านพันธุกรรมเป็นปัจจัยร่วมด้วย ประกอบกับในปัจจุบันมีการใช้ชีวิตที่แตกต่างไปจากเดิม ในแง่ของอาหารการกินที่มีไขมันสูง ความอ้วน การดื่มแอลกอฮอลล์ การไม่ออกกำลังกาย ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงทั้งสิ้น และเนื่องจากมะเร็งเต้านมเป็นมะเร็งที่พบมากขึ้นเรื่อยๆ ในปัจจุบัน ผู้หญิงทุกคนก็มีความเสี่ยงที่จะเป็นได้ วิธีการป้องกันมะเร็งเต้านมที่ดีที่สุด คือ การตรวจพบตั้งแต่ระยะเริ่มแรก และการตรวจที่ดีที่สุดในปัจจุบันคือ การตรวจด้วยเครื่อง แมมโมแกรม (Mammogram) และอัลตร้าซาวด์เต้านม ทำให้สามารถตรวจพบมะเร็งเต้านมตั้งแต่ระยะเริ่มแรก จึงสามารถรักษาให้หายได้ง่ายกว่าการตรวจพบมะเร็งเมื่อก้อนใหญ่ หรือมีการลุกลาม ดังนั้นการให้ความรู้และการสร้างการรับรู้ ของโครงการนี้มอบให้กับผู้หญิงไทยทั่วประเทศ และสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งเต้านมนั้น อยากจะชวนให้ผู้หญิงไทยทุกคน ช่วยกันบอกต่อถึงโครงการนี้แด่เพื่อนผู้หญิงด้วยกัน และช่วยกันดูแลใส่ใจสุขภาพของตัวเองให้มากยิ่งขึ้น
สำหรับ นายแพทย์วีรวุฒิ อิ่มสำราญ ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวว่าโรคมะเร็งเป็นปัญหาสาธารณสุข ที่สำคัญของประเทศไทย โดยจากข้อมูลทะเบียนมะเร็งสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ในปี พ.ศ.2551 พบอุบัติการณ์การเกิดโรคมะเร็งเต้านมมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ในสตรีไทย สูงถึง 10,193 ราย คิดเป็น 20% ของมะเร็งที่พบในเพศหญิงทั้งหมด และมีอัตราการเสียชีวิต และอัตราการเกิดโรคเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าในปัจจุบันจะมีผู้ป่วยรายใหม่สูงถึง 13,000 รายต่อปี ซึ่งมีการเสียชีวิตจากมะเร็งเต้านมประมาณ 3,261 รายหรือวันละ 9 ราย จากข้อมูลทะเบียนมะเร็งของประเทศไทย พบว่ามะเร็งเต้านมเกิดขึ้นได้ ตั้งแต่อายุประมาณ 20 ปีขึ้นไป และอุบัติการณ์เพิ่มขึ้นตามลำดับ จนมีจุดสูงสุดที่ช่วงอายุ 50 – 55 ปี
แมมโมแกรม เป็นเครื่องมือที่ทำให้สามารถตรวจพบความผิดปกติของเต้านม เนื่องมาจากความเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื่อจากตัวก้อนมะเร็ง ซึ่งมีประสิทธิภาพ ความไว และความแม่นยำในการค้นหามะเร็งเต้านมได้ตั้งแต่ในระยะต้น ทำให้การรักษาได้ผลดีและมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่า อย่างไรก็ดี เนื่องมาจากข้อจำกัดทางด้านงบประมาณและทรัพยากรด้านต่างๆของประเทศไทย ทำให้ไม่สามารถจัดบริการการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยเครื่องแมมโมแกรม ให้กับประชาชนทุกคนได้ ดังนั้นการตรวจคัดกรองด้วยความสมัครใจของประชาชนจึงเป็นวิธีการที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
ในการจัดกิจกรรม ของโครงการวาโก้โบว์ชมพู สู้มะเร็งเต้านม ด้วยการมอบบัตรเอกซเรย์เต้านมเพื่อสามารถนำไปตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยเครื่องแมมโมแกรม ในสถานพยาบาลต่างๆ นับว่าเป็นประโยชน์ ในการช่วยให้เกิดการตื่นตัวและเพิ่มสัดส่วนของประชาชนในการเข้าถึงกระบวนการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม
สถาบันมะเร็งแห่งชาติหวังเป็นอย่างยิ่งว่า กิจกรรมดังกล่าว นอกเหนือจากเป็นการส่งเสริมการรับรู้และประโยชน์ ของประชาชนที่ได้รับโดยตรงแล้ว ยังคาดหวังว่าจะเป็นการกระตุ้นให้ภาคเอกชนต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลสุขภาพ ของประชาชนมากขึ้น เพื่อให้ประชาชนไทยทุกคนมีสุขภาพที่ดีและห่างไกลจากภัยมะเร็งเต้านม
พร้อมกันนี้ ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ยังได้พาเยี่ยมศูนย์มะเร็งเต้านม ณ สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการวินิจฉัย และรักษาผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่ได้มาตรฐานระดับสากลแห่งหนึ่งของประเทศไทย ที่ทางบริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมทุนสนับสนุนในการจัดสร้างศูนย์มะเร็งเต้านมแห่งนี้ ทั้งนี้เพื่อให้ผู้หญิงไทยห่างไกลจากมะเร็งเต้านม
สำหรับกิจกรรม "Wacoal Cares For Your Breasts. Mammogram Saves Your Life." รณรงค์ให้ผู้หญิงไทยตรวจสุขภาพเต้านมอย่างสม่ำเสมอ โดยร่วมมือกับสถาบันมะเร็งแห่งชาติ โรงพยาบาลมะเร็งภูมิภาค กรมการแพทย์ เครือโรงพยาบาลกรุงเทพ ให้บริการตรวจเอกซเรย์เต้านมด้วยเครื่องแมมโมแกรมและอัลตร้าซาวด์ ทั้งนี้ ลูกค้าที่เป็นสมาชิก HIS&HER เมื่อซื้อผลิตภัณฑ์วาโก้ สะสมครบ 12,000 บาท ระหว่าง 1 กรกฎาคม ถึง 31 ตุลาคม 2558 วาโก้ ขอมอบบัตรตรวจเอกซเรย์เต้านม (Mammogram and Ultrasound) รับสิทธิ์ตรวจแมมโมแกรม 1 ครั้ง โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ที่สถาบันมะเร็งแห่งชาติ โรงพยาบาลมะเร็งภูมิภาค กรมการแพทย์ เครือโรงพยาบาลกรุงเทพทุกสาขาทั่วประเทศ (ยกเว้นสมุยและสนามจันทร์) โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ และโรงพยาบาลสมิติเวช ธนบุรี รวมสถานพยาบาลชั้นนำที่ให้บริการ 25 แห่งทั่วประเทศ ได้แก่ โรงพยาบาลวัฒโนสถ (โรงพยาบาลกรุงเทพ), โรงพยาบาลกรุงเทพไชน่าทาวน์, โรงพยาบาลกรุงเทพพระประแดง, โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา, โรงพยาบาลกรุงเทพระยอง, โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี, โรงพยาบาลกรุงเทพตราด, โรงพยาบาลกรุงเทพขอนแก่น, โรงพยาบาลกรุงเทพอุดร, โรงพยาบาลกรุงเทพราชสีมา, โรงพยาบาลกรุงเทพหาดใหญ่, โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต, โรงพยาบาลกรุงเทพ หัวหิน, โรงพยาบาลกรุงเทพเชียงใหม่, โรงพยาบาลกรุงเทพพิษณุโลก, โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์, โรงพยาบาลสมิติเวช ธนบุรี, สถาบันมะเร็งแห่งชาติ, โรงพยาบาลมหาวชิราลงกรณธัญบุรี, โรงพยาบาลมะเร็ง ชลบุรี, โรงพยาบาลมะเร็ง ลพบุรี, โรงพยาบาลมะเร็ง ลำปาง, โรงพยาบาลมะเร็ง อุบลราชธานี, โรงพยาบาลมะเร็ง อุดรธานี และโรงพยาบาลมะเร็ง สุราษฎร์ธานี สามารถเข้ารับบริการตรวจด้วยแมมโมแกรม ได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2558 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center โทร 02-296-9979